สเตอร์ลิงชี้สื่อมีส่วน ทำให้ยังเกิดการเหยียดผิว
สเตอร์ลิงชี้สื่อมีส่วน ราฮีม สเตอร์ลิง ดาวเตะ แมนฯ ซิตี้ ระบุ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การเหยียดผิวมันรุนแรงมาจากการนำเสนอข่าวของสื่อ หลังเจ้าตัวเพิ่งเป็นเหยื่อของเรื่องนั้นมาหมาดๆ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกคนเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่าสื่อมีส่วนทำให้การเหยียดผิวยังคงเกิดขึ้นในปัจจุบัน หลังล่าสุดเจ้าตัวโดนแฟนบอล เชลซี เหยียดผิวระหว่างเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ต้นสังกัดออกไปแพ้อีกฝ่าย 0-2 ถึงสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตอนที่ สเตอร์ลิง วิ่งไปหยิบบอลมาเล่น โดยแฟนบอล เชลซี กลุ่มหนึ่งเหมือนจะพูดใส่เขาว่า -ไอ้มืดเอ๊ย- ซึ่งอดีตแข้ง ลิเวอร์พูล ไม่ได้ตอบโต้ไปแบบรุนแรงอะไร ขณะที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” ก็กำลังร่วมมือกับตำรวจเพื่อจัดการกับเรื่องนี้อยู่
สเตอร์ลิง โพสต์รูปข่าวๆ หนึ่งลงบน อินสตาแกรม เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิต พร้อมกับพิมพ์ข้อความว่า “อรุณสวัสดิ์ครับ ผมอยากพูดอะไรสักหน่อย ปกติแล้วผมไม่ใช่คนที่ชอบพูดมากหรอกนะ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมคิดว่าผมต้องชี้แจงบางอย่าง ผมก็จะออกมาพูดแบบตรงไปตรงมา เรื่องของเรื่องก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมกับ เชลซี น่ะ พวกคุณก็คงเห็นจากปฏิกิริยาของผมกันแล้วว่าผมทำได้แค่หัวเราะเท่านั้น เพราะผมคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าอาจต้องเจอเรื่องแบบนี้”
“ยกตัวอย่างเช่น คุณมีนักเตะวัยรุ่น 2 คนที่เริ่มต้นการเป็นนักเตะอาชีพให้ทีมเดียวกัน (โดยที่คนหนึ่งเป็นคนผิวสี ส่วนอีกคนเป็นผิวขาว) ทั้งคู่ต่างก็ทำสิ่งที่ถูกต้องเหมือนกัน นั่นคือการซื้อบ้านให้แม่ของพวกเขาที่ช่วยให้พวกเขาก้าวขึ้นมาถึงจุดๆ หนึ่งได้ หลังจากที่คุณแม่ของพวกเขาให้เวลากับพวกเขาและให้ความรักแก่พวกเขาอย่างมาก แต่ดูสิว่าสื่อนำเสนอข่าวของนักเตะผิวสีกับผิวขาว 2 คนนั้นแบบไหน”
“ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ทั้ง 2 คนต่างก็เป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่พวกเขากลับโดนคำพูดทำให้ดูเป็นคนผิด เด็กหนุ่มผิวสีคนนี้ถูกทำให้ดูแย่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่โหมกระแสการเหยียดผิวให้รุนแรงมากขึ้น ดังนั้นสำหรับสื่อทุกเจ้าที่ชอบบอกว่าไม่เข้าใจว่าทำไมคนสมัยนี้ถึงชอบเหยียดผิวน่ะ ผมขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่าพวกคุณควรจะกลับไปคิดเรื่องการนำเสนอข่าวแบบเป็นธรรม และให้นักเตะทุกคนได้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมกันด้วย” แข้งวัย 24 ปี เปิดอก
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าสิ่งหนึ่งที่ทีมของตนทำการเปลี่ยนแปลงในฤดูกาลนี้ คือการคุมเกมกันได้ดีขึ้น หลังจากพวกเขาขึ้นเป็นจ่าฝูงได้เป็นที่เรียบร้อย
ช่วง 3 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล ในยุคของ คล็อปป์ คุมเกมได้ไม่ดีเท่าที่ควรหลายนัด ทั้งที่พวกเขาเล่นเกมรุกกันได้ดุดันสุดๆ จนทำให้เสียประตูง่ายๆ อย่างเช่นเมื่อปี 2016 ที่ออกไปแพ้ บอร์นมัธ 3-4 ทั้งที่นำไปก่อน 2-0 และมีช่วงที่ขึ้นนำ 3-2 อย่างไรก็ตาม ซีซั่นนี้ “หงส์แดง” ก็แก้ไขตรงจุดนั้นได้เป็นอย่างดี โดยล่าสุดก็เพิ่งบุกไปชนะ บอร์นมัธ แบบขาดลอย 4-0
คล็อปป์ เผยว่า “เราอาจจะเสียประตูไปเยอะเหมือนวันนั้นก็ได้ (ถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลงด้านการคุมเกม) วันนั้นเราปล่อยให้ บอร์นมัธ กลับมาสู่เกมได้ แน่นอนว่าผมคงรับประกันไม่ได้หรอกว่ามันจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก แต่ทุกวันนี้เราก็คุมเกมกันได้ดีขึ้น มันเป็นการพัฒนาครั้งใหญ่ของเรา มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ”
“ฤดูกาลก่อนเราทำผลงานได้สวยหรูเหมือนติดปีกบิน และทุกอย่างก็ไปได้สวย จนกระทั่งเราร่วงหล่นจากฟ้า ช่องว่างระหว่างตอนที่เราได้บินอยู่บนฟ้ากับตอนที่เราหล่นลงมาเมื่อฤดูกาลก่อนมันห่างกันนิดเดียวจนรู้สึกว่าเกิดขึ้นเร็วมาก มันเป็นสิ่งที่เราอยากแก้ไขให้ได้ ซึ่งเราก็ทำได้แล้ว มันถือเป็นเรื่องดีเลยล่ะ ฤดูกาลนี้เรามีนักเตะหน้าใหม่ย้ายเข้ามาร่วมทีมบางคน ส่วนคนอื่นๆ ก็พัฒนาขึ้น ขุมกำลังของเรายังไม่มีประสบการณ์มากเท่าไหร่ และแน่นอนว่าเราก็ยังต้องพัฒนากันต่อไป”
โดเบิ้ล อมารีเย่ สื่อของประเทศอาร์เจนตินา ระบุ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิง บาร์เซโลน่า ควักเงิน 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อซื้อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว โดยมันมีการใส่เบอร์ 10 เอาไว้ตรงท้ายเครื่องบินอีกต่างหาก
ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ของ บาร์เซโลน่า ยอดสโมสรแห่งเวที ลา ลีกา สเปน ซื้อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสุดหรูด้วยเงิน 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 495 ล้านบาท) ตามการเปิดเผยของ โดเบิ้ล อมารีเย่ สื่อของประเทศอาร์เจนตินา
สำหรับเครื่องบินลำดังกล่าวนั้น มีเก้าอี้ทั้งหมด 16 ตัว, มีห้องครัว 2 ห้อง และห้องอาบน้ำอีก 2 ห้อง โดยหนึ่งในห้องอาบน้ำที่ว่ามีฝักบัวให้ใช้ด้วย นอกจากนี้ มันยังมีการใส่เบอร์ 10 ซึ่งเป็นเบอร์เสื้อของ เมสซี่ เอาไว้ตรงท้ายเครื่อง เพื่อตอกย้ำถึงการที่เขาเป็นเจ้าของนกเหล็กสุดหรูอีกต่างหาก
ขณะเดียวกัน ตรงบันไดที่เอาไว้ใช้ขึ้นลงเครื่องบินนั้น มันก็มีการใส่ชื่อของ เมสซี่, อันโตเนลล่า ภรรยาของเจ้าตัว รวมถึง ติอาโก้, มาเตโอ และ ชิโร่ ลูกชายทั้ง 3 คนของเขาเอาไว้ด้วย โดยเครื่องบินลำนี้ถูกส่งไปยังโรงเก็บเครื่องบินส่วนตัวของแข้งวัย 31 ปี ในกรุงบูเอโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นที่เรียบร้อย และเขาก็จะเอาไว้ใช้สำหรับการเดินทางไปกลับระหว่างทวีปยุโรปกับทวีปอเมริกาใต้
ผู้ให้การสนันสนุน www.hill888.com
ขอขอบคุณ www.siamsport.co.th